มลภาวะทางอากาศถือเป็นปัจจัยเสี่ยงลำดับต้นๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ยิ่งในตอนนี้ ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีปริมาณสูงจนเข้าขั้นวิกฤต ก็ยิ่งกลายมาเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับหลายภาคส่วนในการเฝ้าระวังและแก้ไข ทางด้านผู้ประกอบการธุรกิจเอง การพยายามจัดการฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ต้องเตรียมรับมือ ทั้งนี้ก็เพื่อการดูแลสภาพแวดล้อมภายในอาคาร ให้บุคลากรปลอดภัยจากมลพิษและมีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น
ปัญหาฝุ่น PM 2.5
PM 2.5 คือ ฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางเส้นผม นั่นหมายความว่า โพรงจมูกของมนุษย์ไม่สามารถกรองฝุ่นละอองชนิดนี้ได้ อีกทั้งมันยังอยู่ในอากาศได้นานและไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทำให้เราสูดรับเข้าไปในร่างกายได้ปริมาณมากในคราวเดียว จนอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสุขภาพได้ ซึ่งปัญหาฝุ่น PM 2.5 นี้ สามารถสร้างอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ รวมถึงพ่วงปํญหาอื่นๆทางสุขภาพมาอีกมากมาย อาทิ
- อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น น้ำมูกไหลและระคายเคืองจมูก ไปจนถึงหายใจลำบาก แน่นหน้าอก หรืออาจกลายเป็นสารก่อมะเร็ง
- อัตรายต่อผิวหนัง เช่น มีอาการคัน ระคายเคืองผิว และผื่นแดง
- อันตรายต่อดวงตา เช่น ระคายเคืองตา ตาแดง ไปจนถึงเยื่อบุตาอักเสบ
ด้วยอันตรายมากมาย ประกอบกับการที่ร่างกายเราไม่สามารถกรองฝุ่นละอองชนิดนี้ได้ ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีป้องกัน เช่น การสวมใส่หน้ากากหรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้าน อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในอาคาร เราก็ไม่สามารถมั่นใจได้เต็มร้อยว่าฝุ่น PM 2.5 จะไม่เล็ดลอดเข้ามาสู่อากาศด้านใน ซึ่งในส่วนนี้ เราสามารถป้องกันได้อย่างง่ายดายด้วยการเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพอย่าง IoT
วิธีป้องกัน PM 2.5 ด้วยเทคโนโลยี IoT
เทคโนโลยี เป็นหนึ่งในวิธีป้องกัน PM 2.5 ภายในตัวอาคารที่ได้ผลดีมาก เพราะมันมีระบบ Sensor ประกอบกับเครื่องวัด PM 2.5 ที่ทำให้เราสามารถตรวจสอบปริมาณฝุ่นได้สะดวกรวดเร็ว โดย Sensor นี้ จะทำการตรวจวัดและแจ้งเตือนเมื่อมีระดับฝุ่นสูงเกินกว่ามาตรฐาน หรือเกินกว่าระดับที่ปลอดภัย เป็นการทำให้เราควบคุมสภาพอากาศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องวัด CO2 ซึ่งสามารถวัดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ภายในห้อง ทั้งยังปรับให้มันอยู่ในระดับที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยการที่เรามีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เหมาะสมนั้น จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นอีกด้วย จากทั้งหมดนี้ คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าเทคโนโลยี IoT จะช่วยเรารักษาคุณภาพอากาศและรักษาสุขภาพ ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ไม่ควรพลาดสำหรับหลายๆธุรกิจที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาฝุ่นละอองและสภาพอากาศภายในอาคารที่ย่ำแย่
เห็นได้ชัดว่า การมีเทคโนโลยี IoT เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาสุขภาพที่ดีไม่น้อย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจที่ต้องมีการดูแลบริหารอาคาร เพื่อช่วยให้การทำงานภายในองค์กรปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การเลือก IoT มาต่อสู้กับ PM 2.5 ก็จัดเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง PCS ในการวางแผนหรือติดตั้งเทคโนโลยี IoT เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่น PM 2.5 หรือมลภาวะทางอากาศนี้ได้
-
ความท้าทายสำหรับธุรกิจในการเอาชนะฝุ่น PM 2.5